"โพรไบโอติก" กำลังได้รับความนิยมในวงการสุขภาพ เพราะเป็นจุลชีพที่ดีต่อร่างกาย โดยเฉพาะ ระบบย่อยอาหารและลำไส้ หลายคนอาจสงสัยว่า ยิ่งกินเยอะยิ่งดีจริงไหม? วันนี้เรามาหาคำตอบกันว่าควรกินโพรไบโอติกยังไงให้ได้ผลดี
(http://www.rophekathailand.com/wp-content/uploads/2025/03/%E0%B9%82%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%84%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81.png)
อะไรคือโพรไบโอติก?
โพรไบโอติก (https://www.rophekathailand.com/post/l/probiota/probiotic/) (Probiotics) คือจุลินทรีย์มีชีวิตที่อยู่ในลำไส้ของเรา โดยเฉพาะกลุ่มหลักเช่น Lactobacillus, Bifidobacterium, Saccharomyces boulardii ซึ่งมีคุณสมบัติในการ ปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ ส่งผลต่อระบบขับถ่าย, ระบบป้องกันโรค และสุขภาพโดยรวม
5 ประโยชน์ที่ทำให้โพรไบโอติก "ยิ่งกินยิ่งดี"✅ 1. แก้ปัญหาท้องอืดและลำไส้แปรปรวน
โพรไบโอติกฟื้นฟูการทำงานของลำไส้ ลดแก๊ส แน่นท้อง และขับถ่ายง่ายขึ้น โดยเฉพาะในผู้ที่มี ปัญหาท้องผูกเรื้อรัง
✅ 2. เสริมภูมิคุ้มกัน ลดการติดเชื้อ
โพรไบโอติกมีบทบาทในการกระตุ้นการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน ลดโอกาสการติดเชื้อในลำไส้
✅ 3. ต้านการอักเสบในร่างกาย
จุลินทรีย์ที่ดีช่วยบรรเทาอาการแพ้ในร่างกาย ลดภูมิแพ้
✅ 4. ช่วยจัดการไขมันสะสม
มีการศึกษาระบุว่าโพรไบโอติกบางสายพันธุ์ช่วยลดระดับไขมันในร่างกาย และส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม
✅ 5. ช่วยให้อารมณ์ดี
ลำไส้เปรียบเสมือน "สมองที่สอง" ของร่างกาย การมีจุลินทรีย์ดีมากพอ ช่วยลดความเครียด และลดภาวะซึมเศร้า
โพรไบโอติก ควรกินในปริมาณเท่าไหร่ถึงจะพอดี?
แม้โพรไบโอติกจะมีประโยชน์มาก แต่การบริโภค "มากเกินไป" ไม่ได้หมายความว่าจะดียิ่งขึ้นเสมอไป
🔸 อาการที่เกิดได้ หากร่างกายได้รับโพรไบโอติกมากเกินไป เช่น
- ลมในท้องมากผิดปกติ
- ท้องเสีย หรือขับถ่ายบ่อย
- ในคนที่ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
กินโพรไบโอติกอย่างไรให้ได้ผลดี?🧃 อาหารที่มี
โพรไบโอติกโดยธรรมชาติ เช่น
โยเกิร์ต, นมเปรี้ยว, กิมจิ, นัตโตะ, มิโสะ, ผักดอง
💊 โปรไบโอติกในรูปแบบเม็ด
เลือกผลิตภัณฑ์ที่ระบุสายพันธุ์ และมีปริมาณ อย่างน้อย 1-10 พันล้าน CFU ต่อวัน
ควรรับประทานควบคู่กับ พรีไบโอติก (อาหารของโพรไบโอติก) เช่น หน่อไม้ฝรั่ง
โพรไบโอติกดีต่อสุขภาพถ้ากินในปริมาณเหมาะสม โดยเฉพาะลำไส้ และสุขภาพจิต แต่ต้องระวังปริมาณ และควรเลือกแหล่งที่ปลอดภัย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด