สังกัดเดิม โอม ภวัต ฟ้องแบรนด์ดัง

[Joe524]

ต้นสังกัด โอม ภวัต ฟ้องแบรนด์ดัง ข้างหลังประกาศปลดจากพรีเซ็นเตอร์ ยันมิได้ทำผิดข้อตกลง ย้ำเกิดเรื่องในสมัยก่อน-ไม่ขัดกับกฎหมาย

วันที่ 20 เม.ย.2566 ที่ ชั้น21 ตึกจีเอ็มเอ็มมึงรมมี่ คุณสุจรรยา วิลเลกัส ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมาย บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด(มหาชน) ผู้แทน บริษัท จีเอ็มเอ็มทีวี จำกัด ชี้แจงกรณีฟ้องฟ้องร้องคดี บริษัท UGO Nutrition จำกัด ข้างหลังบริษัทดังกล่าวข้างต้นร่อนหนังสือประกาศปลด โอม ภวัต จิตต์สว่างดี นักแสดงในสังกัดจีเอ็มเอ็มทีวี เลิกบทบาทหน้าที่การเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์

สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา โอม ภวัต พระเอกซีรีส์ดัง เป็นหลักสำคัญถูกกล่าวถึงในโลกอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับพฤติกรรมในอดีต โดยเจ้าตัวได้ออกมาเห็นด้วยว่าเคยบูลลี่และก็แกล้งสหายที่เป็นออทิสติก พร้อมด้วยได้ขออภัย รู้สึกผิด แล้วก็รู้สึกเศร้า ยอมรับว่าเหตุครั้งนั้นเป็นบทเรียนราคาแพง ซึ่งมานะปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นมาตลอด

ถัดมาแบรนด์ดังกล่าวข้างต้นได้ร่อนหนังสือประกาศปลดผู้แสดงนำชายหนุ่ม โดยมีเนื้อหาประเด็นหลักว่า "ประกาศการยุติบทบาทพรีเซ็นเตอร์ของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี ให้กับแบรนด์ UGO Nutrition จากเรื่องของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี ที่เป็นหลักสำคัญในโลกออนไลน์ช่วงหลายเดือนที่ผ่านเลยมา ทางบริษัท UGO Nutrition ไม่เคยนิ่งนอนใจ แล้วก็ได้เป็นฝ่ายติดต่อต้นสังกัดของศิลปินอย่างเป็นจริงเป็นจังบ่อย แต่ต้นสังกัดนิ่งเฉยต่อสิ่งที่บริษัทให้ความใส่ใจตลอดมา"

"UGO Nutrition ให้ความใส่ใจกับความรัก คุณประโยชน์ความเท่าเทียม เกียรติยศความเป็นคน และก็ความรับผิดชอบเราจึงตัดสินใจยุติบทบาทพรีเซ็นเตอร์ของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี เมื่อวันที่ 12 เดือนเมษายน 2566 เป็นต้นไป บริษัท ยูโก นูทรีชันน์ จำกัด" ตามที่เสนอข่าวสารไปแล้วโดย คุณสุจรรยา กล่าวว่า "ที่มาในวันนี้ก็เพราะเหตุว่าในกรณีที่ทางบริษัท UGO Nutrition จำกัด ได้มีประกาศยุติหน้าที่การเป็นพรีเซ็นเตอร์ของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี โดยที่ไม่มีเหตุผลอันควรสำหรับในการที่จบบทบาทพรีเซ็นเตอร์อันนั้น รวมถึงทางจีเอ็มเอ็มทีวีมิได้มีการผิดสัญญาหรือไม่ถูกข้อตกลงอะไรก็แล้วแต่กับทางบริษัท UGO ซึ่งการที่ UGO ออกประกาศลักษณะอย่างงั้นทำให้บริษัทและศิลปินก็คือคุณโอม ได้รับความเสียหาย เสียหายความโด่งดัง"



"นับจากมีกรณีเกี่ยวโยงคุณโอมในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเป็นเรื่องในอดีตกาลของคุณโอมในวัยเด็ก เป็นการทำที่มิได้ตรงข้ามกฎหมายนะคะ จะต้องบอกแบบงี้ แล้วทางบริษัทเองไม่เคยเพิกเฉย เราไม่เคยนิ่ง พวกเรามีการติดต่อเจรจากับทาง UGO มาตลอด มีการสนทนาเพื่อหากติการ่วมกัน"

"เราสนทนากันมาหลายที จนกระทั่งวันก่อนพื้นที่ UGO จะมีประกาศตัวนั้นออกมาด้วยซ้ำ โดยเหตุนี้การที่ UGO มีประกาศยุติบทบาทพรีเซ็นเตอร์ออกมา ทางบริษัทจีเอ็มเอ็มทีวีได้รับความทรุดโทรม ทางจีเอ็มเอ็มทีวีแล้วก็นักแสดงเลยจำเป็นต้องขอความเป็นธรรมในกรณีนี้ เพื่อรักษาชื่อเสียงและก็เกียรติของบริษัท รวมทั้งศิลปิน โดยเราคงจำต้องขอพึ่งทางขั้นตอนของศาล เพื่อรักษาไว้ซึ่งสิทธิ์และก็ความเสียหายในเรื่องของชื่อเสียงของบริษัท และก็ศิลปินต่อไปจ้ะ"

เป็นได้หรือไม่ว่า จากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นกับโอมมีผลกระทบกับทางแบรนด์ จึงส่งผลให้ตัดสินใจเลิกบทบาทการเป็นพรีเซ็นเตอร์ แม้สิ่งที่โอมทำจะไม่ผิดกฎหมาย แม้กระนั้นอาจจะไม่ถูกในด้านของศีลธรรม? "อันนี้ทางเราอาจจะตอบไม่ได้ อาจจะต้องถามทาง UGO ค่ะ แต่ในเงื่อนไขคำสัญญาไม่ได้มีเจาะจงเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้ ช่วงนี้ทางพวกเราจัดการฟ้องไปแล้ว ยื่นฟ้องละเมิดค่าทำขวัญ ส่วนจำนวนเงินที่ฟ้องไป อันนี้คงจะไม่สามารถพูดได้เพราะเหตุว่าเป็นข้อมูลในคดี"

ถ้าทาง UGO ติดต่อมาขอไกล่เกลี่ย? "จริงๆมันอยู่ในวิธีการของทางศาล ยังไงทางคู่กรณีอีกฝั่งหนึ่งเขาย่อมจะต้องได้รับคำฟ้องอยู่แล้วค่ะ แนวทางการทางศาลจำต้องพบกันอยู่แล้ว ถามคำถามว่านอกรอบไม่มีแล้วใช่ไหม มันยังตอบไม่ได้ เรายังไม่รู้จัก เนื่องจากเรายังไม่ได้รับการติดต่อมาจ้ะ"

การที่ตัดสินใจฟ้องเป็นเนื่องจากว่าทางนั้นเขาร่อนจดหมายออกมาใช่ไหม? "เขามิได้ร่อนจดหมายนะคะ จู่ๆเขาก็ประกาศ ทั้งๆที่พวกเราเจรจากันตลอดเรื่อยมา จนก่อนวันประกาศเราก็ยังมีการคุยกัน แต่ว่าจู่ๆเขาก็ประกาศ ซึ่งทางเราไม่รู้ค่ะ"

หลังจากที่เขาประกาศไปแล้ว บริษัทได้รับผลพวงเยอะแยะไหม? "ก็จากที่สื่อออกข่าวสารก็มีผลต่อกับเกียรติศักดิ์ของน้องและบริษัทจ้ะ (จากดราม่านี้ยังมีผลเสียกับสินค้าอื่นๆหรืองานอื่นๆของโอมอีกไหม?) เดี๋ยวนี้ยังไม่มีผลกระทบค่ะ"

มองดูกระแสดราม่าของโอมอย่างไร เพราะเหตุว่าหลายคนมองว่าบริษัทไม่ได้ออกมา Take Action อะไรเลย? "ทางบริษัทมองว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดในอดีตกาลแล้วก็เกิดเรื่องในวัยเด็ก โดยทางสถานที่เรียนก็ได้ลงทัณฑ์ตามระเบียบกฎเกณฑ์ของสถานที่เรียน เขาได้รับการลงอาญาไปแล้ว น้องเองก็ได้ขออภัยไปแล้ว และมันไม่ใช่เกิดเรื่องที่กระทำผิดต่อข้อบังคับว่ากันอย่างงั้นเถิด ด้วยเหตุนี้พวกเรามิได้นิ่งเฉย แต่ว่านี่เป็นเหตุผลอย่างที่พูดว่าเป็นเรื่องในอดีตกาล รวมทั้งเขาได้รับการลงอาญาตามวัยของเขา คือเวลานี้เขายังเด็กอยู่"

แต่ว่าคนก็ยังขุดประเด็นนี้ออกมาอีก เพราะเหตุว่าอยากที่จะให้บริษัทออกมาพูดบ้าง? "คืออันนี้รู้สึกว่าในทางของคนที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์เราอาจจะห้ามไม่ได้ว่าคนไหนจะคิดยังไง แต่ในทางของบริษัทดูที่ความเป็นจริงของสิ่งที่เกิดขึ้น ความเป็นคนจ้ะ ซึ่งมันจำเป็นต้องดูจากข้อสรุปที่เกิดขึ้นมากกว่าที่จะไปตัดสินตามกระแสสื่อสังคมจ้ะ"

ในช่วงเวลานี้ภาวะจิตใจของโอมเป็นไงบ้าง? "ก็คงจะไม่ดีหรอกจ้ะ (โอมโดนโจมตีในโซเชียลมากมาย เขามาขอให้ดูแลเรื่องกฎหมายไหม?) อันนี้ยังไม่เคยรู้เรื่องนะคะ เพราะว่าหากเราจะดูก็คงเป็นในทางของหัวข้อการกระทำที่ละเมิดหรือตรงข้ามข้อบังคับ ฝ่าฝืนสิทธิของน้อง เราถึงจะดูค่ะ"

การที่บริษัทยื่นฟ้องทางแบรนด์นั้น กลัวคนจะมองว่าค่ายปกป้องรักษาโอมเกินความจำเป็นไหม? "จะต้องบอกว่าอันนี้คือเรื่องของความเป็นจริงแล้วก็คือเรื่องของธุรกิจนะคะ มันเกิดขึ้นจริง อย่างกลางแจ้งว่าเรามิได้เป็นฝ่ายเลิกการเป็นพรีเซ็นเตอร์ ดังนั้นอันนี้ก็ขึ้นกับกระแสสังคมจะตัดสินจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นค่ะ"
โอม ภวัต
ขอบคุณข้อมูลจาก https://freelydays.com/13731/