• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ตับมีปัญหา เป็นเพราะอะไร ? รักษาได้เช่นไร ?

Started by Prichas, January 05, 2023, 07:11:37 AM

Previous topic - Next topic

Prichas

ตับมีปัญหา จำต้องรีบหาทางแก้ รีบดูแล บำรุง รักษาให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ด้วยเหตุว่าหากปล่อยไว้ให้ไขมันพอกตับ หรือปล่อยให้ตับอักเสบกระทั่งเรื้อรัง ก็เป็นบ่อเกิดของโรคตับแข็ง และโรคมะเร็งตับได้เหมือนกัน โดย Rohit Satoskar กรรมการผู้จัดการจาก MedStar Georgetown สถาบันปลูกถ่ายชื่อดัง กล่าวเน้นย้ำเตือนถึงความสำคัญของตับเราเอาไว้ว่า "ตับ เป็นอวัยวะที่ง่ายต่อการเสียหาย ถ้าคุณไม่ดูแลมันให้ดี.. และเมื่อมันเสียหายไปแล้วครั้งหนึ่ง มันก็ไปลับ ไม่อาจหวนคืนมาดังเดิมได้" แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าตับกำลังมีปัญหา แล้ว สาเหตุ ตับมีปัญหา มาจากอะไร..? และควรดูแลบำรุงยังไง..? เนื้อหานี้มีคำตอบให้คุณ  อวัยวะ "ตับ" ก็เป็นราวกับศูนย์กลางขนาดใหญ่ ทั้งเป็นโรงงานเก็บผลิตภัณฑ์ (กักเก็บสารอาหารต่างๆ) เป็นทั้งโรงงานการผลิต (สร้างโปรตีน สร้างลิ่มเลือด อื่นๆอีกมากมาย) และยังเป็นโรงงานแปรรูป (จากคาร์โบไฮเดรตไปเป็นน้ำตาล ที่ร่างกายจะใช้ประโยชน์เป็นพลังงาน) ถ้าร่างกายขาดหัวใจแล้วต้องตาย..ร่างกายที่ขาดตับก็เหมือนตายทั้งเป็น คำกล่าวที่ว่าตับเป็นเสมือนหัวใจดวงที่สองของร่างกาย จึงไม่ได้เกินเลยแต่อย่างใดหน้าที่ของตับ มีอะไรบ้าง ?ในส่วนของการสร้าง
- สร้างโปรตีนที่จำเป็นต่อร่างกาย ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
- สร้างโปรตีนซึ่งทำให้เลือดเราแข็งตัว อย่างไฟบริโนเจน (Fibrinogen) โดยจะถูกสังเคราะห์ขึ้นที่ตับ
- สร้างโปรตีนที่ทำหน้าที่ เป็นองค์ประกอบของเลือด ตัวอย่างเช่น อัลบูมิน ที่ช่วยอุ้มน้ำสารอาหารและก็เกลือแร่ไว้ในหลอดเลือด
- สร้างน้ำดี ย่อยสลายไขมัน รวมทั้งมีส่วนช่วยในระบบเผาผลาญร่างกาย
- สร้างสารชนิดไขมัน และถึงสารตั้งต้นของฮอร์โมนบางชนิด
ในส่วนของการกักเก็บ
- ตับจะเป็นแหล่งกักเก็บไกลโคเจน เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานนำไปให้ร่างกายใช้
- เก็บวิตามินและก็เกลือแร่บางประเภทที่จำเป็น
ในส่วนของการแปรรูปและอื่นๆ
- ตับคอยแปรรูป ของกินและก็ยาให้อยู่ในรูปที่ร่างกายสามารถนำเอาไปใช้งานได้
- ชวยล้างพิษ กรองสารพิษในเลือด
- ขับของเสียออกจากร่างกายในแบบฉี่ หรือขับถ่ายมากับน้ำดี  สาเหตุ ตับมีปัญหา
จริงแล้วการที่ตับพัง หรือตับต้องเผชิญปัญหาเสื่อมโทรมสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัยอีกทั้งจากเชื้อไวรัส หรือโรคที่มีสาเหตุมาจากพันธุกรรมตั้งแต่เกิด แต่ว่าหลักๆที่ทำให้คนส่วนใหญ่มีการอักเสบที่ตับ ค่าตับสูง มักมีต้นเหตุจากพฤติกรรมทำร้ายตับได้แก่
1.ดื่มแอลกอฮอล์
2.ชอบกินอาหารไขมันสูงอย่างของมัน ของทอด
3.ทำงานหนัก มีความตึงเครียด
4.ชอบนอนดึก ตื่นสาย
5.รับประทานยาหรืออาหารเสริมมากเกินไป
6.ขาดการบริหารร่างกาย
7.นั่งหรือนอนอยู่กับที่เป็นเวลานาน (เกิน 2 ชั่วโมง)
8.ไม่กินอาหารเช้า
9.ชอบรับประทานอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ
10.ทำงานเกี่ยวกับ สารพิษ สารเคมี
11.มีเซ็กส์โดยไม่ป้องกันกับหลายบุคคลเหล่านี้ล้วนเป็นหนึ่งในพฤติกรรมประจำวันซึ่งเราบางทีอาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพบ ก็เลยปฏิเสธไม่ได้เลยว่า "ตับ" ของเรานอกจากจะทำงานมาก 1 วันแล้ว ยังไม่วายถูกทำร้ายในวันแล้ววันเล่าอีกด้วย โดยเราอาจจะลองพิจารณาอาการที่เป็น สาเหตุ ตับมีปัญหา ผ่านสัญญาณที่ร่างกายส่งออกมา เช่น มีอาการง่าย หมดแรง , มีปัญหาในการนอน , ท้องเฟ้อเป็นประจำ, ปวดจุกแน่นที่ชายโครงขวา , ความอยากอาหารลดลง , แขนขา ท้องบวมโต ฯลฯแม้คุณเริ่มมีหนึ่งในอาการดังกล่าวแล้วยังไม่ให้ความสนใจกลับมาดูแลตับอีก.. รู้ตัวอีกครั้งความน่าสะพรึงกลัวของโรคตับก็จะแสดงออกมาอย่างชัดเจนก็ในขั้นรุนแรงอย่างตอนเป็นโรคตับแข็ง หรือมะเร็งตับไปเสียแล้ว  การดูแลและรักษาตับเบื้องต้น
"ตับ" เป็นอวัยวะที่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ โดยทางทฤษฎีถ้าเราตัดตับทิ้งไป 3 ส่วน เจ้าตับเองก็สามารถฟื้นฟูกลับไปเป็นรูปร่างแบบเดิมได้ภายในไม่กี่อาทิตย์ ดังนั้นเมื่อเราเผลอมีพฤติกรรมทำร้ายตับแบบไม่รู้ตัว ตับเองก็ฟื้นฟูตัวเองได้ แต่ว่าไม่ได้หมายความว่าคุณจะใช้งานมันอย่างหนักหน่วง หรือเย็นชาให้ตับถูกทำร้ายโดยไม่ใส่ใจได้ เพราะว่าแม้ตับอักเสบบ่อยๆจนกระทั่งเกิดพังผืดเกาะกินกลายเป็นตับแข็ง ตับก็หมดสิทธิ์ฟื้น ยิ่งมะเร็งยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง.. สิ่งสำคัญที่สุดคือ การใส่ใจบำรุงตับเพื่อป้องกันไว้ก่อน ดีกว่าที่จะตามไปรักษาในภายหลังเมื่อเรามีพฤติกรรมที่ทำร้ายตับ ก็ควรจะเริ่มปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ให้ตับได้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
(1) ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
ลดของกินไขมันสูง ของทอด ของมัน
ในส่วนเนื้อสัตว์เน้นไปที่เนื้อปลา หรือเนื้อไก่ แทนพวกเนื้อสีแดง (อย่างเนื้อหมู หรือเนื้อวัว) เพื่อลดจำนวนไขมันอิ่มตัวที่จะได้รับ
หลีกเลี่ยงขนมหวาน เค็มจัด ใช้พวกเครื่องเทศให้กลิ่นและรสแทนน้ำตาลและก็ผงชูรส
กินอาหารปรุงสุก รักษาสุขลักษณะ ลดการเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัส(2) หมั่นขยับร่างกายเสริมความแข็งแกร่งให้ตับ
ออกกำลังกายให้ได้ 150 นาที/อาทิตย์ (หรืออย่างน้อย 60 นาที/สัปดาห์)
ระหว่างที่ทำงานหาเวลาลุกเดิน 5-10 นาที หรือเปลี่ยนแปลงอริยาบททุก 1-2 ชั่วโมง
ฝึกฝนการหายใจเข้า-ออกลึกๆ เพื่อให้ออกซิเจนเข้าไปขจัดของเสียในเลือด รวมทั้งก๊าซ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็ช่วยในระบบหมุนเวียนเลือดได้(3) เลี่ยงการรับสิ่งเสพติด หรือสารเคมี
ในกรณีที่ไม่อาจจะเลิกได้ พยามยามลดการดื่มแอลกอฮอล์ หรือการสูบยาสูบให้ลดน้อยลงที่สุด
เลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง หรือบริเวณที่มีการแปดเปื้อนของสารเคมี รอบๆที่มีฝุ่นควัน มลภาวะหนาแน่นถ้าปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตได้ ตับย่อมกลับมาแข็งแรงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตามเดิม เพิ่มเติมคือแม้คิดว่าพฤติกรรมเหล่านี้เราอาจทำได้ยาก ลองมามองเคล็ดลับน่ารู้ ที่สามารถช่วยคลีนตับเราได้กัน..  เคล็ด(ไม่)ลับน่าสนใจ คู่การดูแล ตับมีปัญหา
"เรื่องกิน..เรื่องใหญ่" อาหารที่เรารับเข้าไปในทุกๆวันก็นำมาซึ่งการก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่ให้แก่ตับได้ด้วยเหมือนกัน ซึ่งทานเข้าไปแล้วตับจะดียิ่งขึ้นหรือแย่ลง ก็ขึ้นกับว่าเรากินอะไรลงไป.. แล้วก็นี่คือ 3 ตัวช่วยน่าสนใจที่สามารถคลีนตับที่มีปัญหาของเราได้ตัวช่วยแรก #ซูเปอร์เครื่องเทศ - กระเทียม
ถึงจะพบเจอได้ตามตลาดทั่วไป เปิดตู้เย็นเราก็เจอ แม้กระนั้นเครื่องเทศที่ดูบ้านๆนี้แฝงไปด้วยสรรพคุณที่ไม่ได้บ้านตาม โดยกระเทียมจะช่วยกระตุ้นกระบวนการดีท็อกซ์ และป้องกันตับจากพิษ รวมทั้ง Advanced Biomedical Research (2016) ยังได้เผยแพร่งานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยว่ากระเทียมผงช่วยสำหรับการลดไขมันในผู้ที่มีสภาวะไขมันพอกตับได้อีกด้วยตัวช่วยสอง #ซูเปอร์ฟรุ๊ต - พรูนัส มูเม่
หากแม้ชื่อจะไม่เคยได้ยินใครหลายคน แต่ว่ามันเป็นสารสกัด ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่จากฝรั่งเศสซึ่งช่วยลดการสะสมของไขมันส่วนเกินในตับ และก็ลดอาการอักเสบของตับได้ โดยจะมีสารสำคัญในการออกฤทธิ์คือ กรดโอลีโนลิกและก็กรดเออโซลิก ซึ่งมีคุณลักษณะเพิ่มกระบวนการเมตา.ิซึมในตับ รวมถึงสามารถลดไขมันเลวเพิ่มไขมันดี ซึ่งทำให้ตับมีสุขภาพแข็งแรง ทำงานได้อย่างเต็มความสามารถตัวช่วยสาม #ซูเปอร์เครื่องดื่ม - ชาเขียว
ชาเขียวนับว่าเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยคลีนตับชั้นหนึ่ง โดยในปี 2015 The World Journal of Gastroenterology มีการศึกษาค้นคว้าว่า ชาเขียว ช่วยลดระดับไขมันในเลือดตลอดจนถึงส่วนต่างๆในร่างกาย ทั้งพบว่า ผู้ที่ดื่มชาเขียวจำนวน 5 - 10 แก้วต่อวัน สามารถช่วยลดไขมันพอกตับได้อีกด้วย และยิ่งชงอ่อนๆจิบเบาๆทั้งวันยังช่วยดีท็อกซ์ล้างสารพิษได้อีกด้วยสรุป
ตับมีปัญหา ปล่อยปัญหาไว้ก็จะยิ่งสะสมกระทั่งโรคร้ายอาจถามหาแบบไม่รู้ตัว เมื่อจำเป็นต้องใช้ชีวิตและมีพฤติกรรมทำร้ายตับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัวช่วยดีๆหรือการปรับพฤติกรรมก็เป็นเรื่องสำคัญที่สามารถป้องกันและลดความเสี่ยงสำหรับการเป็น โรคตับแข็ง หรือโรคมะเร็งตับ โรคยอดนิยมที่คร่าชีวิตคนประเทศไทยกันติดท็อป 5 ของไทยเรากันเลยทีเดียว"สู้เพื่อตับวันนี้..ชีวิตดีวันหน้า" ร่างกายที่แข็งแรงเราสร้างขึ้นเองได้.. โดยหากสงสัย หรือมีปัญหาสุขภาพตับอยากขอคำแนะนำผู้ที่มีความชำนาญ ขอรับคำแนะนำปัญหาสุขภาพกันได้ฟรีๆที่ Fanpage รวมทั้ง Line : @ Hepheka ซึ่งจะมีกลุ่มผู้เชี่ยวชาญและก็เภสัชกรพร้อมให้คำแนะนำคุณในทุกเวลา