1 วัน ของพนักงานสำนักงานอย่างเราๆตับปฏิบัติภารกิจอะไรบ้าง ?

[Jenny937]

ชีวิตบุคลากรสำนักงาน ส่งผลต่อตับ เป็นปริศนาที่ดูเหมือนจะตอบยากเนื่องจากถ้าเกิด ตับมีปัญหา ตับก็จะไม่แสดงออกทันที ซึ่งต่างกับอวัยวะอื่นๆที่เจ็บเวลาใดก็ส่งสัญญาณเตือนโดยทันที แม้กระนั้นสำหรับตับแล้วแม้ได้รับการปองร้ายตับก็จะสามารถปรับปรุงแก้ไขซ่อนแซมตัวเองแต่ก็บางครั้งก็อาจจะไม่โชคดีเสมอพร้อมถ้าหากตับได้รับการทำลายอย่างมากรวมทั้งสม่ำเสมอก็ทำให้ตับแข็งหรือเป็น โรคมะเร็งตับ ได้



แล้วใน ชีวิตบุคลากรออฟฟิศ 1 วันอย่างพวกเราๆนั้นสร้างภาระให้ตับได้มากขนาดไหนมาดูกัน

อาหารเช้า ส่งผลต่อตับ 

มื้อเช้าตรู่ที่รีบร้อนของหนุ่มสาวสำนักงานส่วนมากกับการดื่มกาแฟเพียง 1 แก้วหรือกระทั่งมิได้กินอะไรเลยทำให้ร่างกายมิได้รับสารอาหารที่จำเป็นต้อง ซึ่งถ้าหากนับเวลาย้อนไปมื้อล่าสุดที่ร่างกายได้รับไม่ต่ำยิ่งกว่า 12 ชั่วโมง หมายความว่าตับผู้ที่เป็นหน้าที่ส่งพลังงานและสารอาหารไปยังส่วนต่างๆภายในร่างกายนั้นควรต้องดึงไกลวัวเจนที่เก็บสะสมไว้มากลายเป็นพลังงานในเวลาเช้ารวมทั้งร่างกายยังจะต้องชดเชยคาร์โบไฮเดรตที่ใช้สำหรับการกลายเป็นพลังอย่างรวดเร็วจึงจำเป็นต้องกินในมื้อต่อไปมากเพิ่มขึ้นอีกด้วยซ้ำซึ่งเปลี่ยนเป็นการเพิ่มภาระหน้าที่ให้ตับสำหรับการทำงานมากขึ้น

มลพิษ สารพิษ มีผลต่อตับ

เวลาเช้ายังจะต้องพบเจอมลพิษบนถนนในแต่ละวันด้วยชีวิตที่รีบของคนเมืองในขณะนี้ที่ต้องเจอกับมลพิษต่างๆไม่ว่าจะเป็น ควันที่มีพิษจากท่อไอเสียรถยนต์ พิษพวกนี้ เมื่อได้รับการสั่งสมเป็นระยะเวลานานอาจมีผลพวงต่อร่างกายในระยะยาวได้ ผลของการวิจัยจากองค์กรอนามัยโลกบอกว่า 80% ของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆของคนเรานั้น ล้วนแล้วแต่มีมูลเหตุฐานรากเกี่ยวเนื่องจากการสัมผัสกับมลภาวะที่สะสมเป็นระยะเวลาที่ยาวนานทั้งหมดทั้งปวงมีผลต่อภายในร่างกายโดยยิ่งไปกว่านั้นตับที่เป็นศูนย์กลางรวมทั้งกรองสารพิษของร่างกาย

Fast Food ส่งผลต่อตับ

เพียงพอมื้อเที่ยงตรงต่างคนต่างรีบเร่งเพราะว่าส่วนมากพนักงานสำนักงานจึงควรรีบหามื้อกลางวันในช่วงเวลาเดียวกันซึ่งมื้ออาหารที่เหมาะสมกับตอนนั้นจำนวนมากก็จะเป็นอาหารฟาสต์ฟู้ดหรืออาหารจานด่วนพร้อมกินได้ในทันทีแม้กระนั้นบางทีอาจส่งผลร้ายในระยะยาวได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตับ ด้วยเหตุว่าส่วนมากอาหารจานด่วนนั้น ชอบมีแป้ง น้ำตาล ไขมัน และก็โซเดียมสูงเกินความจำเป็นของร่างกาย ทำให้เกิดการสะสมไขมันส่วนเกินในตับได้ซึ่งแม้มีไขมันพอกมากมายๆ หรือแทรกในเนื้อตับมากมายเข้า ส่งผลเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคไขมันพอกตับ นำไปสู่สภาวะตับอักเสบ โรคตับแข็งและ มะเร็งตับ ในที่สุด

ความตึงเครียด ส่งผลต่อตับ

ตอนบ่ายมีเรื่องสะสมให้เกิดความเครียดอีกทั้งเรื่องเนื้องานที่ได้รับมอบหมายหรืองานด่วน งานแทรกส่งผลให้ กระบวนการทำร้ายตับจากความตึงเครียดที่สะสม ทำให้ต่อมหมวกไตส่วนนอกหลั่งสารอะดรีนาลีนแล้วก็ฮอร์โมนในกรุ๊ปความเคร่งเครียด ดังเช่นว่า คอร์ติซอล ซึ่งมีผลต่อการกระตุ้นเนื้อเยื่อของเซลล์ต่างๆในร่างกายจนกระทั่งทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระที่ตับและทำให้ความรู้ความเข้าใจสำหรับในการดำเนินงานของภูมิคุ้มกันลดต่ำลงส่งผลให้เกิดความย่ำแย่ต่อตับได้ เปิดโอกาสให้เชื้อโรคเข้ามาปองร้ายได้มากขึ้น นี่คือสาเหตุว่าเพราะอะไรพวกเราถึงล้มป่วยจากความเครียดได้

แอลกอฮอล์ บุหรี่ มีผลต่อตับ

และก่อนกลับไปอยู่ที่บ้านก็มีการพบปะ ดื่มแอลกอฮอล์ ดูดบุหรี่ สนทนากับเพื่อนสถานที่ทำงานทั้งยังเรื่องงาน เรื่องส่วนตั  แต่ว่าหารู้ไม่ว่าเป็นการทำลายตับโดยตรง เนื่องจากเซลล์ตับถูกทำลายจากการดื่มแอลกอฮอล์รวมทั้งการสูบยาสูบ ทั้งพิษอะซีทัลดีไฮด์ จากแอลกอฮอล์ ทำให้โรคตับอักเสบจากแอลกอฮอล์และก็การดมควันของบุหรี่ซึ่งมีสารอนุมูลอิสระปนเปและ สารนิโคติน ที่เข้าไปกระตุ้นต่อมหมวกไตส่วนนอกหลั่งสารอะดรีนาลีนทำให้เซลล์ตับเกิดการความย่ำแย่ แล้วก็แอลกอฮอล์ ยังให้แคลอรี่ สูงถึง 7 กิโลแคลอรี่ ต่อกรัม เทียบกับ คาร์โบไฮเดรตหรือโปรตีน ที่ให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี่ ต่อกรัม จึงไม่แปลกที่ สายดริ๊งก์ถึงเสี่ยงมีภาวการณ์อ้วนลงพุง!!!

นอนน้อย มีผลต่อตับ

รวมทั้งท้ายที่สุดกว่าจะได้นอนก็ยังนอนมืดค่ำ พักผ่อนน้อย โดยมากแล้ววัยรุ่นออฟฟิตทั้งหลายก็ยังมิได้นอนนำมาซึ่งการทำให้แนวทางการทำงานกำจัดพิษในตับทำงานได้ไม่เต็มที่มีผลต่อการเกิดโรคร้ายที่ตามมาทั้งตับอักเสบได้อย่างง่ายดาย ซึ่งตามแนวคิดแล้วระยะเวลา ห้าทุ่มถึงตีหนึ่ง ตรงเวลาที่จะเกิดวิธีการกำจัดสารพิษในตับ ซึ่งควรจำเป็นต้องอยู่ในตอนการนอนสนิท

จากความประพฤติปฏิบัติเพียงแต่ หนึ่งวันพวกเราก็สร้างภาระหน้าที่ให้ตับเรียกว่าทุกช่วงเลยก็ว่าได้ ไหนจะเป็นภาระหน้าที่ที่พวกเราหลบหลีกไม่ได้หรือเพียรพยายามควบคุมและทำได้ยาก ด้วยเหตุผลดังกล่าวเราจึงจำเป็นจะต้องที่จำเป็นต้องหันมาดูแลสุขภาพตับเราให้มีร่างกายที่แข็งแรง ก่อนที่จะไม่เหลือตับให้ดูแล